งานแสดงสินค้าท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่อีกแหน่งหนึ่งของประเทศแถบยุโรปก็คืองาน World Travel Market (WTM) ที่กรุงลอนดอน ที่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรมจะต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละมากๆ เพื่อเดินทางไปร่วมงาน ด้วยหวังว่าจะได้ทำคอนแทรคกับ Tour Operator ที่ดินแดนผู้ดี(เก่า) แห่งนี้กลับมา
นักท่องเที่ยวจากประเทศอังกฤษนั้น จัดได้ว่่าเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพอีกตลาดหนึ่งที่ใครๆ ก็อยากได้ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจไปร่วมงานนั้น มีใครได้ศึกษากันบ้างหรือไม่ว่า Tour Operator แต่ละรายนั้น มี Profile อย่างไร มี Business Model อย่างไร มี Requirement อย่างไรบ้าง
ผู้ที่ไปร่วมงานเหล่านี้ รู้กันบ้างหรือไม่ว่า Tour Operator หลักๆ ในประเทศอังกฤษนั้น ได้มาซื้อกิจการของ Tour Operator รายใหญ่ๆ ในประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว (คนไทยแทบจะไม่เหลือพื้นที่ในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรท่องเที่ยวในประเทศไทย) การเซนต์คอนแทรคส่วนใหญ่นั้นต้องทำกับผู้แทนของ Tour Operator เหล่านี้ในประเทศไทย
Business Model ของ Tour Operator เปลี่ยนแปลงไปจากการขายสินค้าท่องเที่ยวเฉพาะที่มีอยู่ใน Brochure หรือ Catalog เฉพาะของตนเองเท่านั้น ไปเป็นการขายสินค้าทางด้านท่องเที่ยวที่ XML ข้อมูลกับ Tour Operator ต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันไป นอกจากนี้ธุรกิจ Travel Agent นั้น ก็จะเป็นกันเป็นระบบ Franchise ที่ Distributor หรือ Wholesaler ไม่ได้ตั้งอยู่ที่อังกฤษ
ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่จดทะเบียนในประเทศอังกฤษ ต้องปฎิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ถ้ากิจการใดนำสินค้าและบริการที่ไม่เข้าเกณฑ์ที่เขากำหนดไว้จะมีบทลงโทษที่รุนแรง Fire Detector คือหนึ่งในอุปกรณ์ที่รัฐบาลกำหนดไว้ว่าผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่จดทะเบียนในประเทศของเขา จะต้องใช้บริการห้องพักที่ผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เท่านั้น ต่อให้รีสอร์ทของท่านจะหรูเลิศ อลังการเพียงใด แค่ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับเพลิงไหม้ ก็หมดโอกาสที่จะขายในตลาดนี้ไปในทันที
ผมมีโอกาสไปร่วมงานที่นี่หลายครั้ง ไม่สงสัยว่าทำไมคนไทยไปนั่งตบยุงในงานนี้กันเป็นทิวแถว คุณล่ะมีประสบการณ์ไปนั่งตบยุงที่กรุงลอนดอนในขณะที่อุณหภูมิเกือบจะ 0 องศากันบ้างแล้วหรือยัง นอกจะต้องตบยุงแล้วก็ระวังจะตกม้าตาย ถ้าสินค้าที่คุณนำไปขายนั้นคือสินค้าที่ไม่ผ่านเกณฑ์ที่เขากำหนดไว้
No comments:
Post a Comment