วันนี้ขอหยิบยกประเด็นเรื่องนี้มานำเสนอ เพราะเรื่องนี้มักจะทำให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ล้วนเข้าใจผิดและล้มเหลวในการริเริ่มที่จะใช้ Information Technology มาช่วยในการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยการลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน ประหยัดเวลาในการค้นหา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดพิมพ์เป็นเอกสารเพื่อจ่ายแจก และสามารถจะช่วยให้ทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางให้เสียเวลาและค่าใช้จ่าย
หลายหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่ทางด้าน IT หนึ่งคนแล้ว พอมีงานอะไรก็แล้วแต่ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ก็จะโยน หรือมอบหมายงานนั้นให้ไปอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ทางด้าน IT เพราะคาดหวังว่าเขาจะเป็นคนที่รู้และเข้าใจวิธีการทำงานมากที่สุด โดยหาได้คิดสักนิดไม่ว่า บุคลากรทางด้าน IT นั้นมีการแบ่งสายงานแยกย่อยออกไปอีกมากมายหลายแขนงจนสามารถเรียนปลีกย่อยกันจนถึงระดับต๊อกเตอร์ได้เลยทีเดียว
แม้แต่พ่อมดแห่งวงการคอมพิวเตอร์อย่างบิลล์ เกตต์ คุณอย่าคิดว่าเขาจะสามารถทำได้ทุกเรื่องที่เกี่่ยวข้องกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือผู้ก่อตั้ง Facebook ที่โด่งดังก็ตาม
ตอนเริ่มต้นทำงานที่โรงแรมเดมาใหม่ๆ อะไรที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต อยู่ในความรับผิดชอบของ EDP ทั้งหมด แม้กระทั่งงานที่เกี่ยวข้องกับการขายผ่านระบบออนไลน์ ทั้งๆ ที่เนื้องานส่วนใหญ่นั้นเกี่ยวข้องกับการตลาด และการขาย แต่ไปอยู่ในความรับผิดชอบของ EDP เพราะว่ามันต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตในการทำงานนั่นเอง
คราวนี้ลองมาคิดตามผมดูสักนิดว่า
- งานตกแต่งรูปภาพด้วยคอมพิวเตอร์ ควรอยู่ในความรับผิดชอบของใคร
- งานด้านการควบคุมการขาย ควบคุมรายได้ และห้องพักผ่านระบบออนไลน์ ควรอยู่ในความรับผิดชอบของใคร
- งานด้านการออกแบบเวบไซต์ การบริหารข้อมูลที่นำเสนอในเวบไซต์ ควรอยู่ในความรับผิดชอบของใคร
- งานด้านการจัดหาและประยุกต์ใช้ Application หรือ Solutions ต่างที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และได้ผลงาน(ผลผลิต) เพิ่มมากขึ้นอยู่ในความรับผิดชอบของใคร
- งานด้านการศึกษา วิจัย วิเคราะห์ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เพื่อนำเอาข้อมูลมาจัดทำแผนกลยุทธ์ในการทำงาน อยู่ในความรับผิดชอบของใคร
หัวข้อข้างต้นเป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ บางส่วน ที่หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นให้คิดกันว่าเจ้าหน้าที่ IT ขององค์กรหนึ่งคนนั้น มันเพียงพอแล้วหรือที่จะนำพาองค์กรของท่านไปสู่การแข่งขันกันในโลกของเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร
ลองพิจารณาดูนะครับว่าองค์กรของท่านกำลังดำเนินการอยู่เช่นนั้นหรือไม่ ฝากไว้ให้คิด