Digital Marketing Clinic

Digital Marketing Clinic

Friday, 17 December 2010

สถิตินักน่องเที่ยวปี 2008 - 2010

ช่วงนี้ยังวุ่นๆอยู่นิดหน่อย ไม่ค่อยมีเวลาแปลข้อมูลที่มีอยู่เยอะแยะมากมายมาโพสต์ แต่ก็อยากจะนำสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติมาฝากไว้เป็นข้อมูล


ภาพแรก แบ่งตามทวีป จะเห็นว่า Asia มีตัวเลขสูงสุด ตามมาด้วยยุโรปเป็นอันดับสอง แต่จะเห็นได้ว่ายุโรปนั้นมามากเฉพาะช่วง High Season

เรามาลองดูสถิตินักท่องเที่ยวจาก Asia ที่มาประเทศไทยระหว่างปี 2007 - 2010 กันดูบ้างนะครับ เราพอจะเห็น Trend ของแต่ละเดือนได้ว่ามีนักท่องเที่ยวจาก Asia มาเที่ยวประเทศไทยอย่างไร

จะเห็นได้ว่าในเดือนเมษายน 2008 ตัวเลขนักท่องเที่ยวจาก Asia มากที่สุดในประวัติการณ์ ลองย้อนกลับไปดูกันนะครับว่ามีปัจจัยมาจากอะไร หรือใครอยากรู้ว่าประเทศใดมามากที่สุดในช่วงนั้นก็โพสต์อีเมล์ไว้ แล้วจะส่งไฟล์ที่สามารถเรียกดูได้เป็นรายประเทศไปให้ดูครับ

ต่อไปเรามาดูกันครับว่าในปี 2010 ภูมิภาค ASEAN เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในเดือนไหนกันบ้าง  อย่าเพิ่งหลงทิศกับตัวเลขในกราฟที่เห็นนะครับ ขอบอกก่อนเลยว่า ตัวเลขที่นำมาใช้นี้เป็นตัวเลขจากทุกด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้แยกเฉพาะจุด ดังนั้น ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียจะค่อนข้างสูงกว่าประเทศอื่นๆ เพราะตัวเลขผ่านแดนทางถนนสูงกว่าด่านตรวจคนเข้าเมืองตามสนามบินต่างๆ อยู่มาก
รวมถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศลาวด้วย ถ้าตัดสองประเทศนี้ออกไป จะเห็นได้ว่า สิงคโปร์ จะสูงกว่าประเทศอื่นๆ แม้ว่าจะมีประชากรน้อย แต่คนสิงคโปร์เดินทางมาประเทศไทยบ่อย ตามมาด้วยอินโดนีเซีย แม้จะมีประชากรมากกว่าสิงคโปร์มาก แต่มีนักท่องเที่ยวมาน้อยกว่า รวมไปถึงฟิลิปปินส์ และเวียตนามด้วยเช่นกัน ถ้าอยากรู้ว่าทำไมเป็นเช่นนั้่น ก็ลองไปนับเที่ยวบินที่มาจากสิงคโปร์ดูซิครับว่ามีมาวันละกี่เีที่ยวบิน แต่ละเที่ยวบินใช้เครื่องบินขนาดกี่ที่นั่ง แล้วลองเปรียบเทียบกับเที่ยวบินจากประเทศอื่นๆ ดู นอกจากจะมีเที่ยวบินมาน้อยแล้วยังใช้เครื่องขนาดเล็ก บรรทุกผู้โดยสารได้น้อย 

หากใครกำลังใช้จำนวนประชากรมาเป็นหลักในการวางแผนการตลาด ขอให้ปรับความคิดใหม่ว่า ประเทศเล็กๆ ประชากรน้อยๆ มีอัตราการเดินทางมาประเทศไทยซ้ำสูงกว่าประเทศอื่นๆ เพราะเดินไปเดินมา ก็เจอแต่คนรู้จัก กระไหนเลย บินมาเที่ยวเมืองไทยดีกว่า ค่าเครื่องบินไป-กลับ พร้อมที่พักสามวัน-สองคืน รวมทั้งค่า กิน อึ อึ๊บ เมาหัวทิ่ม แล้ว นอน ยังถูกว่า ไปเฮฮาหัวราน้ำกับเพื่อนฝูงในประเทศของตนเองคืนเดียวเสียอีก อยากเดินทางเมื่อไหร่ เดินทางได้ทุกเมื่อ เพราะเที่ยวบินมากมาย ทั้ง Low Cost และ High Cost แต่  Low Quality ทั้งหลายแหล่ เขามาเที่ยวบ้านเราสามวัน สองคืน ถูกกว่า ค่าเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต หรือ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ที่ยังไม่ร่วมค่าใช้จ่ายอื่นๆ แถมยังต้องจองตั๋วล่วงหน้ากันอีกเนิ่นนาน

คราวนี้เรามาดูสถิตินักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็เมินหน้าหนี แต่สองถึงสามปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเจอวิกฤติการณ์ทางการเมืองที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆ ไม่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย กอร์ปกับนักท่องเที่ยวจากยุโรปทั้งหลายที่เคยประเป๋าหนัก กลายเป็นกระเป๋าแฟบชั่วข้ามคืนด้วยฤทธิ์ของวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ที่เคยกล่าวหาว่าประเทศไทยเป็นต้นเหตุทำให้เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง แล้วก็มากอบโกยผลประโยชน์ไป คราวนี้กรรมน่าจะตามสนอง เพราะวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งของบ้านเรา ทำให้ต้มยำกุ้ง และกุ้งบ้านเราขายดิบขายดีพ้นวิกฤติไปในระยะเวลาอันสั้น แต่วิกฤติการณ์แฮมเบอร์เกอร์นี่ยังไม่รู้ว่าจะยุติเมื่อไหร่ ยิ่งตอนนี้แฮมเบอร์เกอร์กลายเป็น Junk Food ไปซะแล้ว สถานการณ์พลิกผัน กลายเป็นว่าอาหารอะไรที่มี Curry ขายดิบขายดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี โรตี ที่ไม่ต้องใส่ไข่ มาขายกันเกลื่อนเมืองไทย และทั่วโลก ดังกราฟที่แสดงให้เห็นด้านล่างนี้


ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากตลาดนี้ไม่ได้เติบโตเฉพาะในบ้านเราอย่างเดียวนะครับ แต่เติบโตไปทั่วโลก แล้วอย่าคิดว่าเขาจะกินแต่โรตีกับ Curry นะครับ ร้านอาหารดีๆ ราคาสูงๆ ที่ไม่ค่อยมีคนไปกินสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะในช่วงที่นักท่องเที่ยวจากยุโรปน้อยลง ตลาดนี้แหละครับ ที่เข้าไปอุดหนุนกันมากมาย แถมพนักงานตามร้านอาหารทั้งหลายก็ยิ้มกันเป็นแถว เพราะทิปหนักกว่าชาวยุโรปเสียอีก ทิปที่ว่าก็ไม่ใช่เงินรูปีนะครับ แต่เป็น US ดอลล่าร์ ที่พนักงานร้านอาหารทั้งหลายไม่ค่อยได้จับกันมานานพอสมควร แม้ว่าพนักงานเหล่านี้จะปวดหัวกับลูกค้าเหล่านี้บ้าง เพราะถามอะไรๆ ก็ส่ายหัวอย่างเดียว ถามว่า "อร่อยไหม" ก็ส่ายหัว "ถามว่าชอบไหม" ก็ส่ายหัว พอพนักงานบริการ เริ่มปวดหัว และ "ส่ายหัว" เพราะไม่เข้าใจขึ้นมาบ้าง ลูกค้าก็ถูกอกถูกใจให้ทิปอย่างงาม

พอพูดถึงเรื่องนี้ขอย้อนกลับมาถึง "กูรู โจ" ลูกพี่เก่าอีกครั้งหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อครั้งที่ "กูรู โจ" ชวนไป Sales ที "เดลลี" โดยมี "กูรู โจ" เป็นหัวโจก นำทีมไป Present กับเอเย่นต์ต่างๆ ตามที่ลูกน้องท้องถิ่นจัดให้ พอไป Present ได้สัก สี่-ห้า เอเย่นต์ "กูรู โจ" หน้าตาเคร่งเครียด แล้วหันมาถามผมอย่างหน้าตาขึงขังว่า "เฮ้ย ไอ้น้อง T พี่ Present งาน ไม่ได้เรื่องหรือไงว๊ะ ไหนเอ็งลองมา Present แทนพี่บ้างซิ" อ้าวกรรมละซิตู ยิ่งพูดกับพวกนี้ไม่ค่อยทันซะด้วยซิ นอกจากเขาจะพูดเร็วแล้วยัง นั่ง "เรือ" มากันเป็นแถว แล้วจะรู้เรื่องกันไหมนี่ ขนาด "กูรู โจ" อยู่เป็นโรบินฮู๊ดในลอนดอนมาตั้งนาน ถ้า Present งานแล้วเขาไม่เข้าใจ แล้ว จปล. (จีนปนลาย จริงๆนะ) อย่างเราจะทำให้เข้าใจได้อย่างไร

ด้วยความสงสัยก็เลยถามกลับไปว่า "ทำไมเหรอพี่ พี่ Present ก็ดีอยู่แล้ว แล้วทำไมจะต้องให้ผม Present แทน" พี่แกก็พูดมาอย่างเหนื่อยหน่ายว่า "ก็พี่ Present มาทุกราย ก็ว่า Present ดีที่สุดแล้ว นึกว่ามันจะเข้าใจ แต่ที่ไหนได้ สุดท้ายมันส่ายหัวกันทุกราย เอ็งลองมา Present บ้างซิ เผื่อว่าเขาจะผงกหัวแบบเข้าใจบ้าง เหนื่อยว่ะ"

...เห็นหน้าตาย เมื่อได้ฟังเช่นนี้ ก็อึ้งกิ้มกี่....

กรรม พี่เรา เล่นเราอีกแล้วหรือนี่......

ไม่รู้ว่าไหลมาเรื่องนี้ได้อย่างไร เอาเป็นว่า ทั้งสาระ และไร้สาระปนๆ กันไป ละกันนะครับ

วั้นนี้ก็พอสมควร สถิติของภูมิภาคอื่นๆ จะนำมาเสนอกันตอนต่อไปนะครับ